วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในประเทศบรูไน


1. พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museum)
10 ที่เที่ยวบรูไน
ภาพจาก bruneitourism.travel

          พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเลยสำหรับพิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน เพราะเป็นที่ซึ่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน ทั้งฉลองพระองค์, เครื่องทรงทองคำ, อาวุธ และเครื่องราชบรรณาการจากประเทศต่าง ๆ ที่มีความวิจิตรงดงาม เช่น คริสตัล หยก งาช้าง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีพระที่นั่งแบบจำลองให้ได้ชมกันด้วย 

          สำหรับส่วนที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ ห้องเล็ก ๆ ที่จำลองขบวนพาเหรดและการตกแต่งอันสวยงาม เนื่องในวโรกาสฉลองครบรอบ 25 ปี การครองราชย์ขององค์สุลต่านนั่นเองค่ะ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายใน ใครที่พกกล้องไปจะต้องฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านนอกเท่านั้นค่ะ


 2. มัสยิดทองคำ (Jame Ar' Hassanil Bolkiah Mosque)
10 ที่เที่ยวบรูไน

          มัสยิดทองคำ Jame Ar' Hassanil Bolkiah Mosque ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1988 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1994 เพื่อเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงถึงการครองราชย์ครบ 25 ปี ขององค์สุลต่าน และมัสยิดแห่งนี้ยังยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในประเทศบรูไนด้วย จุดเด่นของมัสยิดทองคำคือหลังคาสีฟ้าน้ำทะเลที่มีโดมทองขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ด้านหน้าของตัวมัสยิดนั้นจะมีสระน้ำอยู่ ซึ่งดูคล้ายกับทัชมาฮาลในประเทศอินเดียทีเดียว

3. หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ (Kampong Ayer)

10 ที่เที่ยวบรูไน
ภาพจาก bruneitourism.travel

          ถือเป็นความเรียบง่ายที่น่าหลงใหลสำหรับหมู่บ้านกลางน้ำกัมปงไอเยอร์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบรูไน โดยจะมีการแบ่งเป็นหมู่บ้านย่อย ๆ อีกกว่า 42 หมู่บ้าน และมีจำนวนประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 30,000 คนเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละหมู่บ้านนั้นเชื่อมต่อกันหมดด้วยทางเดินที่ทอดยาวกว่าเกือบสามสิบกิโลเมตร บริเวณหมู่บ้านยังประกอบไปด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร มัสยิด ฯลฯ และอาชีพหลักของคนในหมู่บ้านคือการประมงและการเลี้ยงสัตว์ 

          แม้จะดูเรียบง่ายแต่ขอบอกว่าหมู่บ้านแห่งนี้เจริญไม่ต่างจากในเมือง เนื่องจากมีทั้งไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เข้าถึง โดยคุณสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านกลางน้ำกัมปงไอเยอร์ได้โดยการเดินลัดเลาะตามทางเดินที่เชื่อมต่อกัน รวมทั้งการนั่งเรือรับจ้างสัมผัสละอองน้ำบาง ๆ พร้อมกับชมทัศนียภาพโดยรอบของหมู่บ้าน

4. พระราชวัง Istana Nurul Iman (The Istana Nurul Iman palace)
10 ที่เที่ยวบรูไน
ภาพจาก bruneitourism.travel
          พระราชวัง Istana Nurul Iman สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1987 และมีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในของพระราชวังถูกตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุชั้นดี และประกอบไปด้วย 1,788 ห้อง, ห้องน้ำ 257 ห้อง และ 5 สระน้ำ นอกจากนี้ยังมีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุได้ถึง 5,000 คนเลยทีเดียว ที่สำคัญยังพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากมายเลยค่ะ

5. สวนสนุก Jerudong (Jerudong Park)


 ท่อง 10 ที่เที่ยวบรูไน เมืองเล็ก ๆ ที่มั่งคั่งด้วยอารยธรรม
ภาพจาก bruneitourism.travel

          อีกหนึ่งสถานที่สำคัญของประเทศบรูไน ได้แก่ สวนสนุก Jerudong ที่ถูกสร้างให้เป็นของขวัญของประชาชน โดยมีพื้นที่กว้างขวางและใหญ่กว่าสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในฮ่องกงเสียอีก ภายในจะมีเครื่องเล่นมากมาย ทั้งรถไฟเหาะ รถราง เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เพราะสวนสนุก Jerudong ยังมีสนามหญ้าสำหรับครอบครัวที่ต้องการมาปิกนิกอีกด้วย ส่วนค่าผ่านประตูแค่เพียงคนละ 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งไม่รวมกับค่าตั๋วของเครื่องเล่นต่าง ๆ ค่ะ

6. ชายหาดอันสวยงาม
 ท่อง 10 ที่เที่ยวบรูไน เมืองเล็ก ๆ ที่มั่งคั่งด้วยอารยธรรม
ภาพจาก mytravel-asia

          มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติกันบ้าง ประเทศบรูไนนอกจากจะโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมแล้ว ด้านธรรมชาติยังงดงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหาดต่าง ๆ ในประเทศบรูไนที่ติดกับทะเลจีนใต้ ขอบอกว่าแต่ละหาดนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างกันไป เช่น หาด Muara ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน เพียง 27 กิโลเมตรเท่านั้น ที่สำคัญหาดทรายยังสวยและพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งที่พัก ร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีชายหาดขึ้นชื่อ ได้แก่ หาด Meragang, หาด Serasa และหาด Pantai Seri Kenangan

7. อุทยานแห่งชาติ Temburong (Temburong National Park)
 ท่อง 10 ที่เที่ยวบรูไน เมืองเล็ก ๆ ที่มั่งคั่งด้วยอารยธรรม
ภาพจาก bruneidesi

          อุทยานแห่งชาติ Temburong แหล่งธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของประเทศบรูไน ซึ่งถ้าคุณอยากไปเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติละก็ เราขอแนะนำให้คุณจัดสรรเวลาอย่างน้อยสองคืน เพราะผืนป่าในอุทยานแห่งชาติ Temburong นอกจากจะมีพื้นที่กว้างใหญ่แล้ว ยังมีสัตว์ป่านานาชนิดที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจได้แน่นอน อีกทั้งคุณยังจะได้ศึกษาวิถีชีวิตของชนพื้นเมือง รวมทั้งการล่องแพไปตามแม่น้ำ Temburong ให้คุณได้ใกล้กับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น 

8. อนุสาวรีย์น้ำมันหนึ่งล้านบาร์เรล (Billionth Barrel Monument)

10 ที่เที่ยวบรูไน
ภาพจาก clemkuek

          ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศส่งออกน้ำมันอันดับต้น ๆ ของโลก บรูไนจึงสร้างอนุสาวรีย์ Billionth Barrel Monument ขึ้นที่เมืองซีเรีย เพื่อเป็นการฉลองความมั่งคั่งของประเทศที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ และที่สำคัญยังมีการขุดเจาะและค้นพบแหล่งน้ำมันอีกเรื่อย ๆ ด้วย ทั้งนี้อนุสาวรีย์ Billionth Barrel Monument ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1991 เนื่องจากเป็นปีประวัติศาสตร์สำคัญที่บรูไนสามารถผลิตน้ำมันได้สูงถึง 1 พันล้านบาร์เรลนั่นเองค่ะ ถ้ามีโอกาสไปเยือนบรูไนก็อย่าลืมแวะเวียนไปถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมั่งคั่งของประเทศนี้ด้วยนะ

9. พิพิธภัณฑ์บรูไน (Brunei Museum)
10 ที่เที่ยวบรูไน
ภาพจาก bruneitourism.travel
          หากต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศบรูไน เราขอแนะนำพิพิธภัณฑ์บรูไน ที่ซึ่งจะตอบโจทย์คุณได้ดีทีเดียว ภายในพิพิธภัณฑ์จะประกอบไปด้วยหลายโซน ได้แก่ โซนแกลลอรี่ ที่มีรูปภาพประวัติศาสตร์แสดงถึงความเป็นมาของประเทศบรูไน ทั้งทางด้านวัฒนธรรมและการค้า, โซนแสดงโบราณวัตถุอันเก่าแก่และล้ำค่าจากมุสลิมทั่วโลก ทั้งคัมภีร์อัลกุรอานขนาดเล็กที่สุดในโลก, เครื่องประดับที่ทำด้วยทองสมัยโบราณ และหุ่นจำลองวัฒนธรรมประเพณีของชาวบรูไนสมัยก่อน ฯลฯ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลยค่ะ

10. ย่านช้อปปิ้งของบรูไน
10 ที่เที่ยวบรูไน
ภาพจาก bruneidesi

          แน่นอนค่ะว่าอีกหนึ่งสีสันของทุกทริปคือย่านช้อปปิ้ง ที่นักท่องเที่ยวอยากจะได้ของประจำชาตินั้น ๆ ติดไม้ติดมือไปเป็นที่ระลึกและสำหรับเป็นของฝาก และที่บรูไนก็มีหลายย่านด้วยกัน ส่วนสถานที่ช้อปปิ้งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีคือ Yayasan Sultan Haji Hassanal Bolkiah Complex ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดของบรูไน ที่มีสินค้าน่าสนใจมากมายหลากหลายราคา เช่น สินค้าพื้นเมือง, ของโบราณ ไปจนถึงคริสตัลและเครื่องประดับราคาแพงเลยค่ะ ที่สำคัญตัวคอมเพล็กซ์ยังงดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และห้าง Gadong Shopping Mall ก็เป็นอีกสถานที่ช้อปปิ้งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน



อาหารและมารยาทในการรับประทานอาหารบรูไนฯ



เกร็ดความรู้และวัฒนธรรมของประเทศบรูไน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สตรีชาวบรูไน


1.  สตรีชาวบรูไนจะแต่งกายมิดชิด นุ่งกระโปรงยาว เสื้อแขนยาว และมีผ้าโพกศีรษะ คนต่างชาติ จึงไม่ ควรนุ่งกระโปรงสั้น และใส่เสื้อไม่มีแขน ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เพราะถือเป็นสีของพระมหากษัตริย์ การทักทายจะจับมือกันเบาๆ และสตรีจะไม่ ยื่นมือให้บุรุษจับ การชี้นิ้วไปที่คนหรือสิ่งของถือว่าไม่สุภาพ แต่ จะใช้หัวแม่มือชี้แทน และจะไม่ใช้มือซ้ายในการส่งของให้ผู้อื่น สตรีเวลานั่งจะไม่ให้เท้าชี้ไปทางผู้ชาย และไม่ ส่งเสียงหรือหัวเราะดัง 


2.  ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ภาษาราชการของบรูไนคือภาษามาเลย์ ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวบรูไนใช้กัน มากเนื่องจากชาวบรูไนร้อยละ 66 มีเชื้อสายมาเลย์ อย่างไรก็ตาม ชาวบรูไนส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษ ได้ และสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อธุรกิจได้เช่นกัน รวมไปถึงภาษาจีนซึง เป็นภาษาที่มีการใช้กันมาก เนื่องจากมีชาวบรูไนเชื้อสายจีนอยู่ถึงร้อยละ 11 การเรียนรู้ภาษามาเลย์จะช่วยสร้างความประทับใจให้คู่เจรจา ชาวบรูไนได้ 


3.  การรับประทานอาหารร่วมกับชาวบรูไน โดยเฉพาะคู่เจรจาที่เป็นชาวมุสลิมควรระมัดระวังการสั่ง อาหารที่เป็นเนื้อหมูและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากผิดหลักปฏิบัติของศาสนาอิสลาม และอาจขอให้คู่ เจรจาชาวบรูไนช่วยเลือกร้านอาหาร ทั้งนี้บรูไนไม่มีวัฒนธรรมการให้ทิปในร้านอาหาร ในกรณีที่เป็น ร้านอาหารขนาดใหญ่จะมีการเก็บค่าบริการเพิ่มร้อยละ 10 อยู่แล้ว



ข้อควรรู้ ก่อนเดินทางไปเที่ยวประเทศบรูไน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แหล่งท่องเที่ยวบรูไน
บรูไน (Brunei) หรือชื่อทางการคือ เนการาบรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชายฝั่งทางด้านเหนือจรดทะเลจีนใต้ พรมแดนทางบกที่เหลือจากนั้นถูกล้อมรอบด้วยรัฐซาราวะก์ มาเลเซียตะวันออก และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศบรูไนอยู่ละก็ ต้องลองมาอ่านข้อมูลเหล่านี้กันก่อนเลย ได้แก่ ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับบรูไน ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในประเทศ และข้อควรรู้ที่ไม่ควรทำในประเทศบูรไนโดยเด็ดขาด รายละเอียดดังนี้

สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติภายในประเทศบรูไน


ข้อมูลทั่วไปของบรูไน

1. สภาพภูมิอากาศของบรูไนค่อนข้างร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ย 28-32 องศาเซลเซียส
2. เขตเวลาของบรูไน คือ GMT+8 คือเร็วกว่าเวลาของประเทศไทย 1 ชั่วโมง
3. ภาษามาเลย์เป็นภาษาประจำชาติของบรูไน แต่ชาวบรูไนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
4. ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติของบรูไน (นิกายสุหนี่)
5. บรูไนมีประชากรประมาณ 400,000 คน โดยร้อยละ 67 เป็นชาวมุสลิม
6. ประเทศบรูไน ใช้เงินสกุลดอลลาร์บรูไน (Brunei Dollar) มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 1.33 ดอลลาร์บรูไนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 25-26 บาทต่อ 1 ดอลลาร์บรูไน ทั้งนี้ บรูไนมีความตกลงแลกเปลี่ยนเงินกับสิงคโปร์ เงินดอลลาร์สิงคโปร์มีมูลค่าเท่ากับเงินดอลลาร์บรูไนและสามารถใช้แทนกันได้
7. รหัสโทรศัพท์ – รหัสประเทศของบรูไน คือ +673
8. บรูไนใช้กระแสไฟฟ้า 220-240 โวลต์ ปลั๊กไฟเป็นแบบเต้าเสียบ 3 ขา (แบบอังกฤษ)
9. น้ำประปาในบรูไนไม่สามารถใช้ดื่มได้
10. หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของบรูไน ได้แก่ รถพยาบาล 991, ตำรวจ 993, ดับเพลิง 995, กู้ภัย 998
11. บรูไน มีรถประจำทางสาธารณะหลายสายแต่จำนวนเที่ยวรถไม่มากเท่าไรนัก ค่าโดยสารเที่ยวละ 1 ดอลลาร์บรูไนตลอดสาย
12. บรูไน มีรถแท็กซี่สำหรับใช้เดินทางในเมือง โดยค่าบริการต่อเที่ยวค่อนข้างแพง (เที่ยวละประมาณ 20 – 50 ดอลลาร์บรูไนขึ้นกับระยะทาง) และไม่สามารถเรียกได้ตามท้องถนน ต้องโทรศัพท์เรียกเท่านั้น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ไม่ควรทำ

ข้อควรระวังในการเดินทางเข้าบรูไน

1. บุคคลสัญชาติไทยที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในบรูไน จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา 14 วัน แต่หากเดินทางมาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ต้องดำเนินเรื่องขอรับการตรวจลงตราที่สถานเอกอัครราชทูตบรูไนประจำประเทศไทยเสียก่อน
2. เมื่อเดินทางถึงบรูไน ต้องกรอกแบบฟอร์มของสำนักตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรบรูไน (ซึ่งจะมีแจกบนเครื่องบิน) ให้เรียบร้อยเพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากรก่อนเข้าเมือง
3. ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าประเทศบรูไนได้ไม่เกิน 2 ขวด (ขวดละไม่เกิน 1 ลิตร) และเบียร์ 12 กระป๋องต่อการเดินทางเข้าประเทศ 1 ครั้ง และเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริโภคส่วนบุคคลเท่านั้น การนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าบรูไนต้องแจ้งและสำแดงต่อเจ้าพนักงานศุลกากรทราบทุกครั้ง ซึ่งหากเดินทางเข้าบรูไนด้วยเครื่องบินโดยสาร จะต้องกรอกแบบฟอร์มสำแดงและยื่นต่อศุลกากรที่ท่าอากาศยานที่ช่องทางสำแดง (ช่องสีแดง) หากไม่สำแดงจะได้รับการลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากรบรูไน
4. สินค้าอื่นๆ ที่มีข้อจำกัดในการนำเข้าประเทศบรูไน ได้แก่
  • บุหรี่ นำเข้าได้ครั้งละไม่เกิน 200 มวน (หรือยาสูบ 250 กรัม) โดยต้องสำแดงต่อศุลกากรและต้องชำระภาษีบุหรี่ในอัตรามวนละ 25 เซนต์บรูไน
  • น้ำหอม นำเข้าได้ไม่เกิน 60 มิลลิลิตรต่อครั้ง
5. ผู้เดินทางที่จะนำเงินติดตัวเข้าหรือออกจากประเทศบรูไนที่มีมูลค่าเกินกว่า 15,000 ดอลลาร์บรูไน (หรือประมาณ 360,000 บาท) ต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรบรูไนด้วย

ข้อควรระวังในบรูไน ที่ไม่ควรทำ

1. ห้ามใช้นิ้วชี้ในการชี้คนหรือสิ่งของใดๆ เนื่องจากถือเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพอย่างมาก ตามธรรมเนียมปฏิบัติชาวบรูไนจะใช้นิ้วหัวแม่มือข้างขวาแทนนิ้วชี้ในทุกกรณีไม่ว่าจะชี้บุคคลหรือสิ่งของ
2. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด กฎหมายบรูไนอนุญาตให้ชาวต่างชาติหรือผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในที่พักส่วนตัวเท่านั้น
3. ก่อนเข้าไปในศาสนสถานจะต้องถอดรองเท้าก่อนทุกครั้ง หากไม่ใช่คนมุสลิมให้เดินในบริเวณที่จัดให้เท่านั้น ทั้งนี้สำหรับสุภาพสตรีที่ไม่ใช่มุสลิมจะมีชุดคลุมยาวสีดำจัดไว้ให้สำหรับสวมทับก่อนเข้าไปในศาสนสถานนั้นๆ
4. ห้ามถ่ายรูปภายในศาสนสถานโดดเด็ดขาด
5. ในการทักทายกันให้ใช้การสัมผัสมือ หลังจากปล่อยมือแล้วให้นำมือนั้นมาแตะบริเวณหัวใจเพื่อเป็นการให้เกียรติ ทั้งนี้ชาวมุสลิมบรูไนที่เคร่งครัดบางคนจะไม่สัมผัสมือกับเพศตรงข้าม ดังนั้นในการทักทายชาวมุสลิมบรูไนเพศตรงข้าม จึงควรรอให้ฝ่ายบรูไนยื่นมือมาก่อน
6. ในการส่งของหรือรับของควรใช้มือขวาเท่านั้น แต่สามารถใช้มือซ้ายช่วยประคองได้
7. เมื่อได้รับการเชื้อเชิญให้รับประทานอาหาร หากไม่รับประทานให้กล่าวขอบคุณและใช้มือสัมผัสที่ภาชนะอาหาร
8. การแต่งกายในที่สาธารณะ สุภาพสตรีควรแต่งกายสุภาพ มิดชิด ไม่ควรใส่ชุดที่พอดีตัวจนเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการสังสรรค์ในหมู่สุภาพบุรุษจำนวนมาก
9. การแต่งกายควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เนื่องจากเป็นสีของสถาบันพระมหากษัตริย์ของบรูไน และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าลายรูปสัตว์หรือการให้ของขวัญที่มีรูปสัตว์
10. สีดำถือเป็นสีพิธีการของบรูไน หากจะเข้าร่วมพิธีใดที่เป็นทางการ สุภาพสตรีควรแต่งชุดสีดำที่มิดชิด หากเป็นไปได้ควรเป็นเสื้อแขนยาวและกระโปรงยาวคลุมข้อเท้า
11. ในทุกวันศุกร์ ระหว่างเวลา 12.00 – 14.00 น. ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้าทุกแห่งจะปิดการให้บริการชั่วคราวตามกฎหมาย ควรวางแผนล่วงหน้าหากต้องรับประทานอาหารกลางวันนอกสถานที่
12. ในช่วงเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมจะถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว ห้ามดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด ผู้ที่มิใช่มุสลิมต้องดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารในสถานที่ส่วนบุคคลเท่านั้น ร้านอาหารจะไม่ให้บริการสำหรับการรับประทานในร้าน ต้องซื้อกลับมารับประทานในสถานที่ส่วนบุคคลเท่านั้น
13. ห้ามบีบแตรรถยนต์ หากไม่ใช่กรณีสุดวิสัย เพราะชาวบรูไนถือว่าการบีบแตรเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก
14. หากมีขบวนเสด็จขับสวนทางหรือขับผ่านและมีรถจักรยานยนต์ตำรวจนำโบกให้จอดรถ ต้องหยุดรถและจอดชิดข้างทางด้านซ้ายทันที รอให้ขบวนเสด็จผ่านไปแล้วจึงออกรถได้
15. ตามธรรมเนียมปฎิบัติของผู้ขับขี่รถยนต์ในบรูไน ผู้ขับขี่รถยนต์จะหยุดรถตรงทางม้าลายให้คนข้ามก่อนเสมอ
16. ตามธรรมเนียมปฎิบัติของผู้ขับขี่รถยนต์ในบรูไน การกระพริบไฟหน้ารถถือว่าเป็นการให้ทาง

ลักษณะทางภูมิศาสตร์ และ ประชากร

ที่ตั้ง: ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือบนเกาะบอร์เนียว ในทะเลจีนใต้ แบ่งออกเป็น เขต คือ เขต Brunei-Muara เขต Belait เขต Temburong และเขต Tutong



พื้นที่: 5,765 ตารางกิโลเมตร เป็นผืนแผ่นดิน 5270 ตารางกิโลเมตร (พื้นที่ 70% เป็นป่า เขตร้อน) และเป็นผืนน้ำ 500 ตารางกิโลเมตรโดย


ดินแดนอาณาเขต: รวม 381 กิโลเมตร มีดินแดนอาณาเขตติดกับประเทศมาเลเซียทั้งหมด


เขตชายฝั่ง: 161 กิโลเมตร


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
เมืองหลวง: บันดาร์เสรีเบกาวัน (Bandar Seri Begawan) 

ภูมิอากาศ: อากาศโดยทั่วไปค่อนข้างร้อนชื้น มีปริมาณฝนตกค่อนข้างมาก และมี อุณหภูมิอบอุ่น โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศาเซลเซียส


ภูมิประเทศ: พื้นที่ชายฝั่งสูงขึ้นเป็นภูเขาทางทิศตะวันออก และเนินเขาต่ำทางทิศตะวันตก


ทรัพยากรธรรมชาติ: ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และไม้


ภัยธรรมชาติ: ไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว และอุทกภัย


สิ่งแวดล้อม (ปัญหาปัจจุบัน): ควันจากไฟป่าในอินโดนีเซีย


สิ่งแวดล้อม (ความตกลงระหว่างประเทศ) : เป็นสมาชิกความหลากหลายทางชีวภาพ ความเสื่อมโทรมของพื้นที่ สิ่งมีชีวิตที่ใกล้ สูญพันธ์ การปรับตัวของสิ่งแวดล้อม ขยะอันตราย การปกป้องชั้นบรรยากาศ ภาวะมลพิษจากเรือ


ประชากร 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประชากร บรูไน

ประชากร: 374,577 คน (ประมาณการ ปี 2550)


โครงสร้างอายุ: 0-14 ปี : 27.8% (เพศชาย 53,512 เพศหญิง 50,529) 15-64 ปี : 69 % (เพศชาย 130,134 เพศหญิง 128,488) 65 ปี และสูงกว่า : 3.1% (เพศชาย 5,688 เพศหญิง 6,226)


อัตราการเติบโตของประชากร: 1.81% ต่อปี (ประมาณการ ปี 2550)


สัญชาติ: ชาวบรูไน (Bruneian)


กลุ่มชนพื้นเมือง: มาเลย์ 67% จีน 15% ชาวพื้นเมือง 6% อื่นๆ 12%


ศาสนา: ศาสนาประจำชาติ คือ อิสลาม 67% และศาสนาอื่น ได้แก่ พุทธ 13% คริสต์ 10% และอื่นๆ 10%


ภาษา: ภาษามาเลย์ (Malay หรือ Bahasa Melayu) เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็น ภาษาอังกฤษ และจีน


การศึกษา: 92.7% ของประชากรทั้งหมดอ่านออกเขียนได้



แหล่งที่มาของข้อมูลทั้งหมด

ข้อควรรู้ ก่อนเดินทางไปเที่ยวประเทศบรูไน
แนะนำประเทศบรูไน
ที่มา : https://www.iam-tour.com/country_info/

10 ที่เที่ยวบรูไน 
ที่มา :http://www.rromdtour.com/tips/

สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ไม่ควรทำในบรูไน

ที่มา :http://www.aseanthai.net/ewt_news.php?nid=2483&filename=aseanknowledge

อาหารและมารยาทในการรับประทานอาหารบรูไนฯ

ที่มา :http://www.aseanthai.net/ewt_news.php?nid=3364&filename=aseanknowledge


สัตว์ประจำชาติบรูไน

ที่มา :https://sanyarit.wordpress.com/2014/08/05/


ดอกไม้ประจำชาติบรูไน

ที่มา :http://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.net/

บรูไนดารุสซาลาม - ข้อมูลทั่วไป
ที่มา : http://library.sut.ac.th/asean_data/?m=data&country_id=1&category_id=11

แนะนำประเทศบรูไน

IMG_8358-0


บรูไน ( Brunei) หรือ เนการาบรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชายฝั่งทางด้านเหนือจรดทะเลจีนใต้ พรมแดนทางบกที่เหลือจากนั้นถูกล้อมรอบด้วยรัฐซาราวัก มาเลเซียตะวันออก  บรูไนเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าหลัก (ปริมาณการผลิตน้ำมันประมาณ 180,000 บาเรล/วัน)

ธงประจำชาติและตราแผ่นดิน


  

สำหรับลักษณะของธงชาติประเทศบรูไน ดารุสซาลามนั้น พื้นผิวของธงจะประกอบไปด้วย สีเหลือง เป็นหลัก โดยมีแถบสีขาว และสีดำ พาดตามแนวทแยงมุม แถบสีขาวนั้นจะ อยู่ด้านบน และแถบสีดำจะอยู่ด้านล่าง ซึ่งแถบสีขาวและแถบสีดำนี้ ทั้งสองสีจะพาดจากด้านคันธงจรดไปจนถึงปลายธงทั้งสองด้าน ส่วนบริเวณตรงกลางของธง จะมีตราแผ่นดินของประเทศบรูไน ดารุสซาลามอย่างเด่นชัด ทีนี้เราจะมาดูสีต่าง ๆ บนธงซึ่งจะแยกความหมายออกมาเป็นดังนี้
– สีเหลือง ซึ่งเป็นส่วนที่มีมากที่สุดบนตัวธง หมายถึง พระมหากษัตริย์ของประเทศบรูไน ดารุสซาลาม
– สีขาว และสีดำที่พาดทแยงมุมบนตัวธง หมายถึง มุขมนตรีหรือรัฐมนตรีภายในประเทศ
– ตราสัญลักษณ์แผ่นดินของประเทศบรูไน ซึ่งประทับตราตรงกลางธงชาติ หมายถึง ความมีสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามภายในประเทศบรูไน ดารุสซาลาม

สัตว์ประจำชาติบรูไน  คือ  เสือโคร่ง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
 เสือโคร่ง หรือ เสือลายพาดกลอน (อังกฤษ: Tiger, จีน: 虎, ญี่ปุ่น: トラ, สเปน: Tigre) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อันดับสัตว์กินเนื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panthera tigrisในวงศ์ Felidae จัดเป็นสัตว์ที่มีขนาดที่สุดในวงศ์นี้ และเป็นเสือสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดด้วย เสือโคร่งนั้นเป็นสัตว์ประจำชาติบรูไน

ดอกไม้ประจำชาติบรูไน คือ ดอกส้านชะวา (Dillenia) หรือ ดอกซิมปอร์ (Simpor)




ดอกส้านชะวา เมื่อบานเต็มที่
ดอกส้านชะวา เกิดจากต้นไม้ที่ชื่อว่าต้นส้านชะวา ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เมื่อโตเต็มที่จะสูงประมาณ 10 เมตร มีเปลือกไม้สีม่วงดำ มีใบเป็นใบเดี่ยวออกสลับกันบนกิ่งก้าน ใบมีขนาดค่อนข้างใหญ่คือกว้างราว 10 ซม. และยาว 30 ซม. มีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปวงรี มีผลขนาดเล็ก ทรงกลมแป้นคล้ายมะนาวและส้ม แต่มีขนาดเล็กกว่า กล่าวคือมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ชม. เมื่อสุกจะมีสีส้มถึงแดงดอกส้านชะวาเป็นดอกไม้สีเหลืองสดใส ออกดอกเป็นช่อ 5-10 ดอกต่อช่อ มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เมื่อโตเต็มที่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 ซม.มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบซ้อนกันคล้ายร่ม ดอกซ้านชวาถือว่าเป็นดอกไม้ประจำถิ่นของบรูไน และสามารถพบได้ในประเทศมาเลเซียด้วย ประเทศบรูไนนิยมนำดอกส้านชะวามาใช้ตกแต่งในงานมงคลต่างๆ รวมถึงในธนบัตรหรือเงินของบรูไนและงานศิลปะประเภทต่างๆอีกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจในประเทศบรูไน >>> ที่คุณไม่ควรพลาด💚💚💚

       👇👇👇👇👇👇👇👇จิ้มเลย👇👇👇👇👇👇👇          

หน้าแรก

แนะนำประเทศบรูไน

บรูไน ( Brunei) หรือ เนการาบรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉีย...